ความเชื่อของการใส่แหวนหยก

Jade_Ring

หากเอ่ยถึงเรื่องความเชื่อแล้วนั้น ในแต่ละประเทศก็ล้วนมีความเชื่อแตกต่างกันไป เช่น ความเชื่อของชาวจีน ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ อันเป็นความเชื่อในหลากหลายเรื่องมากมายเหมือนกับความเชื่อของคนไทย

โดยเฉพาะความเชื่อในเรื่องเกี่ยวกับการใส่เครื่องประดับติดตัว อย่าง “แหวน” และ “กำไล” โดยคนจีนในสมัยก่อนจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ อย่างเช่นคนจีนเชื่อกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณแล้วว่าถ้าจะใส่แหวนหยก ต้องใส่ที่นิ้วก้อย เนื่องจากจะช่วยทำให้มีชีวิตเกิดความสุขสบายและไม่ต้องทำงานหนัก

แต่ถ้าใส่กำไลหยก ก็จะเป็นการช่วยเสริมให้ผู้สวมใส่เป็นคนมีอำนาจ บารมี ช่วยทำให้ชีวิตหมีความเจริญก้าวหน้า พบกับความเจริญรุ่งเรือง รวมทั้งยังเป็นการช่วยสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น ทั้งทางร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเสริมพลังให้ร่างกายมีความแข็งแรงอีกด้วย

โดยหยก คือหินชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นอัญมณีอันแสนอันเลอค่ามากอีกชนิดหนึ่งบนโลก โดยเฉพาะชาวจีนมีความเชื่อกันว่าหยกเป็นเจ้าแห่งหินมีค่าทั้งมวล โดยหยก จัดเป็นอัญมณีแห่งสรวงสวรรค์ เป็นสิ่งล้ำค่าคู่ควรกับองค์จักรพรรดิ ดังนั้นในสมัยโบราณหยกจึงได้ถูกนำไปใช้ในราชสำนักสำหรับฮ่องเต้ เพื่อใช้แสดงออกในเรื่องของอำนาจ บารมี ความศักดิ์สิทธิ์ในแผ่นดินและราชบัลลังก์ ด้วยเหตุนี้หยกจึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมจีนอันแสนยาวนาน

ชาวจีน มีความเชื่อกันมาอย่างนมนานว่าการสวมแหวนหยกไว้ที่นิ้วก้อยจะเป็นการนำโชค นำพาความมั่งคั่งร่ำรวยมาให้แก่ผู้สวมใส่ “สำหรับผู้ชายให้สวมแหวนไว้ที่นิ้วก้อยข้างซ้าย” ส่วน “ผู้หญิงให้สวมไว้ที่นิ้วก้อยข้างขวา” แต่สิ่งเหล่านี้จะสามารถเห็นผลดีที่สุด ถ้าคุณใส่แหวนซึ่งทำจากหยกแท้ๆทั้งวง แต่ก็อาจจะมีราคาสูงไปเสียสักหน่อย เนื่องจากจะต้องใช้หยกชิ้นใหญ่มาก เพื่อนำมาแกะสลักเป็นแหวน แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องใส่หยกที่มีคุณภาพดีที่สุดก็ได้ แค่เลือกหยกที่มีสีเขียวโปร่งแสงก็เพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม ชาวจีนเชื่อว่าการใส่แหวนให้ถูกนิ้วเป็นเรื่องต้องใส่ใจ ถ้าคุณอยากมีอำนาจบารมี คุณต้องสวมแหวนหยกไว้ที่นิ้วชี้ แต่ถ้าคุณอยากพบรักแท้ให้คุณสวมแหวนหยกไว้ที่นิ้วนาง แต่ชาวจีนเคร่งมาก คืออย่าสวมแหวนหยกไว้กับนิ้วโป้ง เนื่องจากมันหมายถึงการสูญเสียโชคลาภ เสียในเรื่องของความมั่งคั่ง ร่ำรวย ความสำเร็จ ดาราชั้นแนวหน้าในฮ่องกงหลายคน ระวังในการห้ามใส่แหวนที่นิ้วโป้ง มากๆ เนื่องจากมันหมายถึงความล้มเหลวเพียงในชั่วข้ามคืน และเหล่าดาราดังทั้งหลายก็เชื่อเรื่องโชคลางมากทีเดียว